กองทัพบก รับสมัครงาน ปี 2568

กองทัพบก รับสมัครบุคคลเข้าปฏิบัติงาน ประจำปี 2568 จำนวน 2,394 อัตรา รับสมัครพฤษศจิกายน 2567 – มกราคม 2568 รายละเอียดมีดังนี้

ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร

1.1 เป็น นักเรียนนายสิบทหารบก จำนวน 2,200 อัตรา
1.2 เป็น นายทหารประทวน จำนวน 126 อัตรา
1.3 เป็น นายทหารสัญญาบัตร จำนวน 68 อัตรา

ประเภทการรับสมัครสอบ

​2.1. เป็นนักเรียนนายสิบทหารบก จำนวน 2,200 อัตรา
2.1.1 รับจากทหารกองประจำการ และทหารกองหนุน ประเภทที่ 1 ทุกเหล่าทัพ (จำนวน 1,760 อัตรา)
2.1.2 รับจากบุคคลพลเรือน (จำนวน 440 อัตรา)
​2.2 เป็นนายทหารประทวน จำนวน 126 อัตรา
2.2.1 รับจากกำลังพลจากแหล่งภายในกองทัพบก (จำนวน 60 อัตรา)
2.2.1.1 ทหารกองประจำการที่เลื่อนกำหนดเวลาปลดจากกองประจำการ (จำนวน 20 อัตรา)
2.2.1.2 พนักงานราชการ/ลูกจ้างชั่วคราว สังกัดกองทัพบก (จำนวน 20 อัตรา)
2.2.1.3 อาสาสมัครทหารพราน (ชาย) (จำนวน 20 อัตรา)
2.2.2 รับจากนักศึกษาวิชาทหาร(หญิง) ชั้นปีที่ 3 ขึ้นไป หรืออาสาสมัครทหารพราน(หญิง) (จำนวน 30 อัตรา)
2.2.3 รับจากทหารอาสา (อัตรานายทหารประทวน) เป็นผู้ที่ได้รับการบรรจุ (จ้าง) ในปี พ.ศ. 2564 (จำนวน 36 อัตรา)
​2.3 เป็นนายทหารสัญญาบัตร : การสอบคัดเลือกบุคคลพลเรือน ทหารกองหนุน เข้ารับราชการเป็นนายทหารสัญญาบัตร ประจำปีงบประมาณ 2568 จำนวน 68 อัตรา
2.3.1 รับจากบุคคลพลเรือน/ทหารกองหนุน (จำนวน 45 อัตรา)
2.3.2 รับจากนักศึกษาวิชาทหารหญิง ชั้นปีที่ 3 ขึ้นไป/อาสาสมัครทหารพราน (หญิง) (จำนวน 10 อัตรา)
2.3.3 รับจากทหารอาสา (อัตรานายทหารสัญญาบัตร) เป็นผู้ที่ได้รับการบรรจุ (จ้าง) ในปี พ.ศ. 2564 (จำนวน 13 อัตรา)

การรับสมัคร

รับสมัครทางอินเตอร์เน็ตได้ที่เว็บไซต์ https://atc.rta.mi.th (กรมยุทธศึกษาทหารบก) ​https://radd-atc.rta.mi.th (กองคัดสรรและพัฒนาบุคลากร) https://atc-rta.thaijobjob.com (ระบบการสมัคร) ตั้งแต่พฤษศจิกายน 2567 – มกราคม 2568

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กองคัดสรรและพัฒนาบุคลากร กรมยุทธศึกษาทหารบก เลขที่ 41 ถ.เทอดดำริ แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม. 10300 โทร. 0 2241 4037, 0 2241 4629 และ 0 2241 4068 – 9 ต่อ 89100, 89108, 89109, 89300 วันเวลาราชการ

ดูรายละเอียดได้ที่ : รอไฟล์ประกาศรับสมัคร

เรื่องที่คุณอาจสนใจ


ประกันสังคม รับเงินสงเคราะห์บุตรเพิ่มเป็น 1000 บาท

ประกันสังคม สำหรับผู้ประกันตน ม.33 ม.39 รับเงินสงเคราะห์บุตรเพิ่มจาก 800 บาทเป็น 1000 บาท เช็กเงื่อนไข ได้เงินวันไหน

การปรับเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรสำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 ซึ่งมีบุตรตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จากเดิม 800 บาท เป็นเดือนละ 1,000 บาท

โดยขณะนี้อยู่ในกระบวนการขั้นตอนทางกฎหมายเพื่อเสนอเข้าที่ประชุม ครม. โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568

ซึ่งให้ปรับอัตราเหมาจ่ายเงินสงเคราะห์บุตรเป็นอัตรา 1,000 บาท ต่อเดือนต่อบุตรหนึ่งคนสำหรับบุตรที่มีอายุไม่เกิน 6 ปี และได้สิทธิคราวละไม่เกิน 3 คน โดยมีรายละเอียดดังนี้

1.กรณีผู้ประกันตนที่ได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเดิมอยู่แล้ว เมื่อกฎกระทรวงมีผลใช้บังคับ สำนักงานประกันสังคมจะปรับเงินสงเคราะห์บุตรของเดือนมกราคม 2567 เป็น 1,000 บาท ให้โดยอัตโนมัติ

2.กรณีผู้ประกันตนที่มีสิทธิกรณีสงเคราะห์บุตรใหม่ ต้องยื่นแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกับสำนักงานประกันสังคม โดยสำนักงานฯ จะจ่ายเงินสงเคราะห์บุตรของเดือนมกราคม 2568 เป็น 1,000 บาท ให้โดยอัตโนมัติเช่นกัน (ผู้ประกันตนสามารถยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนได้ภายใน 2 ปี)

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานประกันสังคม สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.sso.go.th


ดิจิทัลเฟส 2 คนอายุ 50 ปีขึ้นไป ลุ้นรับเงินสด 10,000 บาท ก้อนเดียว

เงินดิจิทัลเฟส 2 คนอายุ 50 ปีขึ้นไป ลุ้นรับเงินสด 10,000 บาท ก้อนเดียว คาดเตรียมชงเข้าบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ 19 พฤศจิกายนนี้

กระทรวงการคลังเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อที่จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในวันที่ 19 พ.ย. 67 โดยกระทรวงการคลังจะมีการเสนอแนวทางการแจกเงินสด 10,000 บาท ก้อนเดียวให้กับกลุ่มที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปี หรือ 60 ปีขึ้นไปด้วย

ส่วนการเสนอการแจกเงินให้กลุ่มผู้สูงอายุนั้น มองว่ากลุ่มผู้สูงอายุมีความเดือนร้อนสูงกว่ากลุ่มอื่น เพราะความสามารถในการหารายได้ต่ำกว่ากลุ่มอื่น พร้อมยืนยันว่ากลุ่มนี้จะไม่ทับซ้อนกับกลุ่มเปราะบางที่ได้รับเงินดิจิทัลในเฟสแรก

เมื่อถามว่าผู้สูงอายุจะได้รับเงิน 10,000 บาท เมื่อไหร่นั้น นายเผ่าภูมิ ระบุ ต้องรอข้อสรุปจากบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจก่อน ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า

ทั้งนี้ การประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจในวันที่ 19 พฤศจิกายน 67 กระทรวงการคลังจะมีการเสนอภาพรวมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว รวมถึงมาตรการของขวัญปีใหม่ ที่จะมีออกมาเร็วๆ อย่างแน่นอน


ธ.ก.ส. รับสมัครพนักงาน

ธนาคารเพื่อการเกษตร รับสมัครบุคคลภายนอกเป็นพนักงาน รับวุฒิ ป.ตรี จำนวน 34 อัตรา รับสมัคร 6 – 15 พฤศจิกายน รายละเอียดมีดังนี้

ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร

1.ฝ่ายพัฒนาระบบงานและสารสนเทศ (พส.) จำนวน 18 อัตรา
2.ฝ่ายปฏิบัติการเทคโนโลยีและสารสนเทศ (ปท.) จำนวน 9 อัตรา
3.สำนักแผนดิจิทัลเทคโนโลยีและสารสนเทศ (ผท.) จำนวน 1 อัตรา
4.สำนักรักษาความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีและสารสนเทศ (รส.) จำนวน 1 อัตรา
5.สำนักตรวจสอบเทคโนโลยีและสารสนเทศ (ตท.) จำนวน 5 อัตรา

คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง

– อายุไม่เกิน 35 ปีบริบูรณ์(นับถึงวันที่ปิดรับสมัคร)
– ได้รับวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือปริญญาโทในด้านที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ วิศวกรรมคอมพิวเตอร์และเครือข่ายวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์และระบบคอมพิวเตอร์ วิศวกรรมมัลติมีเดียและระบบอินเตอร์เน็ต
วิทยาการคอมพิวเตอร์ประยุกต์ วิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ วิทยาการสารสนเทศคอมพิวเตอร์เทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีการจัดการระบบสารสนเทศ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีวิศวกรรมคอมพิวเตอร์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เทคโนโลยีสารสนเทศสถิติ การบริหารระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่าย ระบบสารสนเทศ ระบบสารสนเทศคอมพิวเตอร์ การพัฒนาซอฟต์แวร์ วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร วิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์และระบบคอมพิวเตอร์ โครงข่ายโทรคมนาคม และคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์อุตสาหกรรม การบริหารระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่าย จากสถาบันการศึกษาที่ ก.พ. รับรอง
– หากมีประสบการณ์และมีความสามารถในการพัฒนาโปรแกรม จะได้รับการพิจารณา
เป็นพิเศษ ดังนี้
(1) FrontEnd – WEB Application, html, JavaScript, ReactJS, AngularJS, Mobile
Application, React native, Flutter
(2) BackEnd – Golang, JAVA
(3) Data Analytic – Python,.net, R
(4) DevOps – CI/CD, Jenkins, Ansible, Container
– หากมีประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ด้านการออกแบบระบบเครือข่ายสื่อสาร ด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการพัฒนาโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับระบบ Mobile-Banking จากสถาบันการเงินการธนาคาร บริษัทเอกชน ส่วนงานราชการ สถาบันอื่น ๆ จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ
– หากมีใบรับรองในสายอาชีพคอมพิวเตอร์ เช่น CISSP, CISA, CISM, CompTIA, ITPE เป็นต้น จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ

การรับสมัคร

รับสมัครทางอินเตอร์เน็ตได้ที่เว็บไซต์ https://baac.thaijobjob.com ระบุตำแหน่งที่ต้องการสมัคร “พนักงานปฏิบัติการด้านคอมพิวเตอร์ ระดับ 4-5” ตั้งแต่วันที่ 6 – 15 พฤศจิกายน 2567

ดูรายละเอียดได้ที่ : ธนาคารเพื่อการเกษตร


ขั้นตอนลงทะเบียนแอ่วเหนือคนละครึ่ง ผ่านเว็บ

ขั้นตอนลงทะเบียนแอ่วเหนือคนละครึ่ง www.แอ่วเหนือนคนละครึ่ง.com รัฐแจกเงินเที่ยว คู่มือสำหรับนักท่องเที่ยว ในพื้นที่ 17 จังหวัด ภาคเหนือ

โดยจะเปิดให้เริ่มลงทะเบียนได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ล่าสุดได้มีการเปิดตัวเว็บไซต์ www.แอ่วเหนือคนละครึ่ง.com เรียบร้อยแล้ว โดยเที่ยวได้ที่จังหวัด เชียงราย, น่าน, พะเยา, เชียงใหม่, แม่ฮ่องสอน, แพร่, ลำปาง, ลำพูน, ตาก, อุตรดิตถ์, พิษณุโลก, สุโขทัย, เพชรบูรณ์, พิจิตร, กำแพงเพชร, นครสวรรค์, อุทัยธานี

วิธีลงทะเบียนแอ่วเหนือคนละครึ่ง และใช้สิทธิ์

1.เข้าพัก จองและเข้าพักที่โรงแรมหรือที่พักที่เข้าร่วมโครงการใน 17 จังหวัดภาคเหนือ

2.ลงทะเบียนรับสิทธิ์
– สแกน QR Code ที่โรงแรมหรือที่พักที่เข้าร่วมโครงการ
– กรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-สกุล เบอร์โทรศัพท์ และยืนยันการลงทะเบียน
– จะได้รับ SMS ยืนยันการลงทะเบียนสำเร็จ

3.ใช้สิทธิ์ส่วนลด
– ภายใน 3 วัน (72 ชั่วโมง) หลังจากได้รับ SMS ยืนยัน
– สแกน QR Code ที่ร้านค้า ร้านอาหาร หรือสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ
– กรอกเบอร์โทรศัพท์และยอดใช้จ่ายจริง ระบบจะคำนวณส่วนลด 50% สูงสุด 400 บาท
– ยืนยันการใช้สิทธิ์ และแสดงหน้าจอให้กับร้านค้า

แอ่วเหนือคนละครึ่ง ใช้ที่ไหนได้บ้าง

– โครงการแอ่วเหนืองคนละครึ่งสามารถใช้ได้ที่ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ฯลฯ ที่เข้าร่วมแคมเปญ
– เงื่อนไขนักท่องเที่ยวสามารถใช้สิทธิ์ส่วนลด 400 บาทได้ทุกร้าน ไม่จำกัดจำนวนครั้ง แต่ต้องไม่ใช้ซ้ำร้านเดิม

เงื่อนไขการลงทะเบียนรับสิทธิ์ แอ่วเหนือคนละครึ่ง

– นักท่องเที่ยวสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 67 เวลา 17:00 น. เป็นต้นไป
– นักท่องเที่ยวที่สามารถรับสิทธิ์ได้จะต้องเข้าพักกับโรงแรม/ที่พัก ที่เข้าร่วมโครงการฯ เท่านั้น
– ลงทะเบียนผ่านการ Scan QR Code กับป้ายที่ทาง ททท.จัดเตรียมให้ ณ โรงแรม-ที่พักเท่านั้น
– เมื่อนักท่องเที่ยวได้รับสิทธิ์ส่วนลดแล้วจะต้องนำไปใช้ภายใน 3 วัน (72 ชั่วโมง) นับจากเวลาที่ได้รับ SMS ลงทะเบียนสำเร็จ
– หากไม่มีการใช้สิทธิ์กับสถานประกอบการใดสิทธิ์ของท่านจะถูกยึดคืนทันที และไม่สามารถ ลงทะเบียนได้ใหม่อีกครั้ง
– นักท่องเที่ยวสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้เพียง 1 ครั้ง ตลอดโครงการฯ
– ระยะเวลาโครงการฯ 1 พ.ย. 67 – 31 ธ.ค. 67
– ททท.ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของแคมเปญโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า


วิธีทำใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์ 2567

กรมการขนส่งทางบกอำนวยความสะดวกผู้ขับรถที่มีใบอนุญาตขับขี่แบบสมาร์ทการ์ดที่มีคิวอาร์โค้ด ให้สามารถแสดงใบอนุญาตขับขี่ผ่านแอปพลิเคชัน DLT QR Licence โดยสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต รวมถึงสามารถทำสำเนาใบอนุญาตขับรถเป็นภาพสีหรือขาวดำได้เลย

วิธีทำใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์

1.ดาวน์โหลดแอป DLT QR LICENCE

– google play : google Play DLT QR LICENCE
– App Store : App Store DLT QR LICENCE

2.ลงทะเบียน
– กรอกเลขบัตรประชาชน หรือ พาสปอร์ต
– กรอกอีเมล (สำหรับรับรหัส OTP)

3.ตั้งรหัสผ่านในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ดำเนินการ

4.สแกน QR CODE ด้านหลังใบขับขี่ (ใช้ได้ทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์)

5.เข้าสู่เมนู เพื่อแสดงใบขับขี่เสมือนจริง